แชมป์โลกคนที่ 17 ของ รัตนพล ส.วรพิน

เมื่อ ฟ้าลั่น ลูกมิ่งขวัญ เสียแชมป์โลกในรุ่นและสถาบันเดียวกันนี้ไปในกลางปี พ.ศ. 2535 ด้วยเรื่องหัวหน้าคณะของฟ้าลั่นขัดใจเรื่องผลประโยชน์กับผู้จัดการ รัตนพลจึงได้มีโอกาสชิงแชมป์แทนในปลายปี โดยมี พ.อ.(พิเศษ) บรรจุ อ่องแสงคุณ เป็นผู้จัดการ ซึ่งก็สามารถทำได้โดยชนะคะแนน แมนนี่ เมลชอร์ นักมวยชาวฟิลิปปินส์ไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ โดยขณะนั้นรัตนพลมีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น จากนั้นรัตนพลก็สามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้หลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากชกป้องกันตำแหน่งภายในประเทศตลอด แม้รูปร่างจะแลดูใหญ่เกินนักมวยรุ่นเดียวกันในพิกัด แต่ก็สามารถทำน้ำหนักผ่านมาได้ตลอด โดยเป็นที่รับรู้ทั่วกันของสื่อมวลชนและแฟนมวยว่า เป็นเพราะทางกรรมการจัดการแข่งขันแอบตั้งตาชั่งให้หย่อนมาตลอด จนกระทั่งการป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 13 ในวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2539 รัตนพลต้องเป็นฝ่ายตกตาชั่งเสียแชมป์โลก เนื่องจากไม่สามารถทำน้ำหนักได้ จึงทำสถิติป้องกันตำแหน่งไว้ได้เพียงแค่ 12 ครั้ง แต่ในปลายปีเดียวกันก็สามารถกลับมาเป็นแชมป์โลกได้อีกครั้ง

ในการเป็นแชมป์โลกในสมัยที่ 2 รัตนพลสามารถป้องกันตำแหน่งไว้ได้ทั้งหมด 6 ครั้ง ก่อนที่จะเสียแชมป์ในปลายปี พ.ศ. 2540 ไปอย่างไม่มีใครคาดคิด เนื่องจากเป็นฝ่ายแพ้น็อก โซลานี่ เปเตโล นักมวยโนเนมชาวแอฟริกาใต้ไปในยกที่ 5 ณ เวทีมวยชั่วคราว สระบัวแหลมสมิหลา สงขลา

รัตนพล เป็นนักมวยรุ่นเล็กที่รูปร่างใหญ่ หมัดหนัก แม้จะไม่มีชั้นเชิงมากนัก แต่มีช่วงชกยาว จึงชอบค้ำต่อย จึงได้รับฉายาจากแฟนมวยว่า "เขาทรายน้อย" เพราะถูกมองว่าชกในลักษณะคล้ายกับเขาทราย แกแล็กซี่ [1]แต่มีชื่อที่เรียกกันเล่น ๆ จนติดปากว่า "ไอ้โบ้" โดยย่อมาจากแรมโบ้ ซึ่งเป็นฉายาเมื่อสมัยยังชกมวยไทย รัตนพลมีเอกลักษณ์ประจำตัว เมื่อเพลงชาติบรรเลงจบก่อนการชกป้องกันตำแหน่งครั้งใด จะตะโกนว่า "ไชโย ๆ ย่าโมออกศึก" ทุกครั้ง

ใกล้เคียง